23:30 น. คณะผู้เดินทางพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตูทางเข้าที่ 7-8 แถว U เคาน์เตอร์สายการบินเอมิเรตส์ ( EMIRATES ) ซึ่งมีเจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยให้การต้อนรับพร้อมอำนวยความสะดวกด้านสัมภาระแก่ท่าน
* การจัดที่นั่งบนเครื่องบินเป็นไปตามสายการบินกำหนดแบบหมู่คณะ *
02.50 น. ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์ ( EMIRATES ) เที่ยวบินที่ “EK 377
06.00 น. ถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
08.15 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน EMIRATES เที่ยวบินที่ “EK 927
11.05 น. ถึงสนามบินนานาชาติกรุงไคโร ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและรับสัมภาระในการเดินทางเรียบร้อยแล้ว นำท่านเดินทางสู่ เมืองไคโร (เวลาท้องถิ่นช้ากว่าประเทศไทย 4 ชั่วโมง)
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตคารท้องถิ่น
บ่าย จากนั้นนำคณะเดินทางเข้าชม พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติอียิปต์ อันเลื่องชื่อของโลกเป็นสถานที่ที่รวมศิลปะวัตถุโบราณมากมายที่สุดในโลกแห่งหนึ่งชม โลงศพทองคำแท้พร้อมหน้ากากทองคำของฟาโรห์ตุตัน คาเมนและสมบัติส่วนตัวอีกมากมายของพระองค์ อาทิ เตียงบรรทม รถศึกและเก้าอี้บรรลังก์ทองคำซึ่งภาพบนพนักเก้าอี้โรแมนติกมาก เป็นภาพของฟาโรห์ตุตันคาเมนนั่งอยู่บนเก้าอี้และมเหสีของพระองค์กำลังทาน้ำมันหอมให้ ทั้งคู่ใส่รองเท้าแตะคนละข้างอันแสดงถึงความรักอันลึกซึ้ง นอกจากนี้ท่านยังจะได้ชมสมบัติอันล้ำค่าอื่นๆ อีกจำนวนมาก เช่น แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอ ฝีมือประณีต สิ่งของทั้งหมดล้วนมีอายุเก่าแก่กว่า 3,300 ปี
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HELNAN DREAMLAND HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ โรงแรมที่พัก
นำท่านเดินทางสู่ เมืองเมมฟิส ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าแก่แห่งแรกในยุคอียิปต์โบราณกว่า 5,000 ปี เป็นเมืองได้รับการบันทึกในประวัติศาสตร์ว่ามีความสำคัญในการรวมอียิปต์บน และอียิปต์ล่างให้เป็นหนึ่งเดียวโดยกษัตริย์เมนาปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ที่ 1 ที่นี่ ท่านจะได้ชม รูปแกะสลักขนาดยักษ์ ด้วยหินอลาบาสเตอร์ของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ฝีมือการแกะสลักเป็นเยี่ยม ระหว่างทางท่านจะได้เห็นต้นอินทผาลัมขึ้นสวยงามเป็นทิวแถว เดินทางต่อไปยังเมืองโบราณที่ใกล้กันอีกเมืองคือ ซัคคาร่า เพื่อชม ปีรามิดขั้นบันได เป็นสิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ ใช้เป็น สถานที่ฝังพระศพของ กษัตริย์ ซอเซอร์ และเป็นต้นแบบของ ปีรามิดในยุคต่อมา
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตคารท้องถิ่น
เดินทางสู่ เมืองกีซ่า นำท่านชมมหาพีระมิดกีซา หรือ THE GREAT PYRAMID OF GIZA อายุกว่า 5000 ปี ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก เป็นชื่อเรียกของสถานที่ฝังพระศพของเมืองเลโทโพลิสโบราณ(ปัจจุบันคือ ไคโร) ครอบคลุมพื้นที่ 2,000 ตร.ม. บนที่ราบสูงทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นที่ตั้งของมหาปิรามิด 3 องค์ ซึ่งองค์ฟาโรห์แห่งอียิปต์โบราณสร้างขึ้นเพื่อฝังพระศพของพระองค์เอง นับเป็นสิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของโลก ใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้น 30 ปี สร้างจากแท่งหินขนาดใหญ่มาก แต่ละก้อนหนักกว่า 2 ตัน หินแต่ละก้อนวางชิดติดกันแบบแนบสนิทมาก แม้แต่กระดาษก็สอดไม่ผ่าน พีระมิดกีซามีอยู่สามหลังใหญ่ ๆ เรียงจากขวาไปซ้าย คือ
•พีระมิดของฟาโรห์คูฟู KHUFU เป็นพีระมิดที่สูงที่สุด เดิมมีความสูง 146 เมตร ปัจจุบันสูง 138 เมตร เพราะส่วนยอดได้พังทลายไปบ้างจึงทำให้เตี้ยลงกว่าเดิมเล็กน้อย ฟาโรห์คูฟูเป็นฟาโรห์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ที่ 4 (2589-2566 ก่อน ค.ศ.)
•ตรงกลาง คือ พีระมิดของฟาโรห์คาเฟร่ KHAFRE เดิมมีความสูง 143 เมตร ปัจจุบันสูง 136 เมตร ฟาโรห์คาเฟร่เป็นลูกชายของฟาโรห์คูฟูค ส่วนรูปแกะสลักหินที่มีลำตัวเป็นสิงโต มีศีรษะและใบหน้าเป็นมนุษย์ คือ สฟิงซ์ที่เชื่อว่าแกะสลักเป็นพระพักตร์ของฟาโรห์คาเฟร่เจ้าของพีระมิดหลังนี้
•ส่วนซ้ายสุดขนาดเล็กกว่าองค์อื่น คือ พีระมิดของฟาโรห์เมนคูเร MENKAURE มีขนาดเล็กที่สุด มีความสูง 65 เมตร และมีพีระมิดของราชินีอีกสามหลัง ฟาโรห์เมนคูเร คือ ลูกชายของฟาโรห์คาเฟร่ และเป็นหลานของฟาโรห์คูฟู
หมายเหตุ :
(การชมภายในตัวปีระมิด ค่าเข้าชมไม่ได้รวมอยู่ในค่าบริการทัวร์ ผู้เดินทางสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากหัวหน้าทัวร์หรือมัคคุเทศก์ท้องถิ่น)
ท่านใดต้องการขี่อูฐกลางทะเลทราย ชมทิวทัศน์รอบๆโดยมีหมู่ปีรามิดเป็นฉากหลัง
(กรุณาติดต่อสอบถามที่หัวหน้าทัวร์ ราคาประมาณ $10-15 เหรียญต่อท่านต่อหนึ่งตัว)
จากนั้นนำท่านชม สฟิงซ์ ที่แกะสลักจากเนินหินธรรมชาติ มีส่วนหัวเป็นพระพักต์ของฟาโรห์และลำตัวเป็นสิงโต ท่านอาจจะขี่อูฐกลางทะเลทรายชมทิวทัศน์รอบๆโดยมีหมู่ปิรามิดเป็นฉากหลัง อิสระเดินเล่นเที่ยวตามอัธยาศัย
จากนั้นนำท่านอิสระเลือกซื้อสิ้นค้าพื้นเมืองมากมายที่ “ตลาดข่านเอลคาลีลี” ตลาดสำคัญทางการค้าขายของพื้นเมืองและแหล่งสินค้าที่ระลึกที่ใหญ่ที่สุดในกรุงไคโร ท่านสามารถเลือกซื้อของพื้นเมืองสวยๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นขวดน้ำหอมที่ทำด้วยมือ สินค้าต่างๆ เครื่องทองรูปพรรณและเพชรพลอยลวดลายแบบอาหรับ พรม และของที่ระลึกแบบพื้นเมือง เดินทางสู่สนามบินไคโร
ค่ำ บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HELNAN DREAMLAND HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า
หลังอาหารนำคณะเดินทางไปสนามบินไคโรเพื่อเดินทางไปเมืองอัสวาน ASWAN
............. น. ออกเดินทางโดยสายการบิน อียิปต์ แอร์ เที่ยวบินที่ ……………………
…………… น. เดินทางถึงสนามบินเมืองอัสวาน
นำท่านไปแวะถ่ายรูป เขื่อนยักษ์อัสวาน หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า ASWAN HIHG DAM สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1960 เพื่อ ช่วยให้มีน้ำหล่อเลี้ยงไร่นาตลอดปี อีกทั้งยังใช้พลังน้ำเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของคนทั้งประเทศ และเพื่อป้องกันน้ำไหลท่วมจากแม่น้ำไนล์เวลาฝนตกหนัก ซึ่งเขื่อนนี้มีความยาว 36,000 เมตร ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นทะเลสาบที่เกิดจากการสร้างเขื่อนสร้างแม่น้ำไนล์ คือ ทะเลสาบนัสเซอร์ ( NASSER) มีความลึก 80 เมตรและกว้าง 10 เมตร
จากนั้นนำท่าน ชมเสาหินโอเบลิสก์ OBELISK แกะสลักจากหน้าผาซึ่งยังไม่แล้วเสร็จ (The Unfinished Obelisk) เป็นแท่งหินมหึมาที่สกัดเกือบเสร็จแล้ว แต่มีรอยราวจึงทิ้งค้างไว้เช่นนั้น แท่งหินนี้เป็นของพระนางฮัทเชปซุท หากไม่แตกร้าวจะเป็นเสาโอเบลิสก์ที่สูง 41 เมตร หนัก 1,200 ตัน เสาโอเบลิสก์นี้เป็นอนุสาวรีย์ชนิดหนึ่งของอียิปต์โบราณ สร้างเพื่อบูชาแด่เทพ อามุน-รา หรือสุริยะเทพ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตคารท้องถิ่น
นำทุกท่านเดินทางสู่วิหารฟิเล (PHILAE TEMPLE TEMPLE OF ISIS ) ตั้งอยู่เมืองอัสวาน ประเทศอียิปต์ เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีไอซิส เป็นวิหารที่มีความสําคัญและงดงามมาก ในอดีตวิหารนี้เคยถูกสร้างขึ้นบนเกาะฟิเลกลางแม่น้ำไนล์ แต่เมื่อเขื่อนอัสวานสร้างเสร็จ วิหารทั้งวิหารก็จมอยู่ใต้ระดับน้ำ นานาชาติจึงเข้ามาช่วยเหลือโดยการทำ ทำนบกั้นน้ำ และค่อยๆย้ายหินทีละก้อนขึ้นมาสร้างวิหารแห่งใหม่ที่เกาะอากิลเกียแทนที่วิหารเดิมแห่งนี้
จากนั้นเดินทางต่อไปยัง เรือสำราญที่พักซึ่งเป็นเรือสำราญขนาดใหญ่ ล่องไปตามแม่น้ำไนล์
ล่องเรือใบโบราณ หรือเรียกว่าเรือเฟลุคกะ FELUCCA
ผ่านชม สวนพฤกษศาสตร์ (BOTANLCAL GARDENS ) เป็นที่ศูนย์รวมพันธ์ไม้นานาชนิด, สุสานอากาข่าน, วิวชีวิตความเป็นอยู่ของชาวเมืองอัสวานสองข้างทาง ฯลฯ ล่องเรือชมวิวทิวทัศน์อันงดงามหน้าเมืองอัสวานขณะล่องไปตามแม่น้ำไนล์
ค่ำ บริการอาหารค่ำบนเรือ ( บุฟเฟต์ ) และ พักค้างคืนบนเรือ
เช้าตรู่ นำท่านออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ มุ่งหน้าสู่ วิหารอาบูซิมเบล
โดยระยะทางกว่า 290 กิโลเมตร
(อาหารเช้าแพคกล่อง บริการระหว่างเดินทาง)
นำท่านชมมหาวิหารอาบูซิมเบล ABU SIMBEL TEMPLE มีขนาดมหึมา สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 13 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองชัยชนะของอียิปต์ที่ชนะนิวเบียในสมรภูมิแห่งคาเดส จุดเด่นของวิหารแห่งนี้คือ รูปแกะสลักองค์ฟาโรห์รามเลส ที่นั่งประทับอยู่บนบัลลังก์หน้าวิหารถึงสี่องค์ แต่ละองค์มีความสูง 20 เมตร มหาวิหารอาบูซิมเบลประกอบด้วยวิหารใหญ่ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 และวิหารของเนเฟอร์ตารี ซึ่งเป็นมเหสีที่รักของพระองค์วิหารอาบูซิมเบล งดงามยิ่งใหญ่และมีชื่อก้องโลกเพราะเมื่อมีการสร้างเขื่อนขนาดยักษ์ที่อัสวาน ทำให้วิหาร 17 แห่งจมอยู่ใต้น้ำ จนองค์การยูเนสโก้ต้องมาช่วยยกให้พ้นน้ำและมหาวิหารอาบูซิมเบลก็ถูกยกขึ้นสูงจากพื้นดิน 65 เมตร ซึ่งเป็นงานที่ยากมาก ใช้เวลาทั้งสิ้น 4 ปี สิ้นค่าใช้จ่าย 40 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในวิหารใหญ่มีห้องบูชาและมีรูปสลัก 4 องค์นั่งอยู่ หนึ่งในนั้นคือ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 พร้อมด้วยเทพเจ้า ต่างๆ อีก 3 องค์ และทุกปีวันที่ 22 ก.พ. และวันที่ 22 ต.ค. ลำแสงแรกของพระอาทิตย์จะสาดส่องเข้าไปต้องรูปสลัก และว่ากันว่าวันที่ 22 ก.พ. ตรงกับวันประสูติของฟาโรห์รามเสสที่ 2 ขณะที่วันที่ 22 ต.ค. ตรงกับวันขึ้นครองราชย์ของพระองค์ แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางวิทยาการทางการคำนวณของชาวอียิปต์โบราณ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางกลับเมืองอัสวาน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
หลังจากนั้น เดินทางกลับสู่อัสวาน ASWAN ระหว่างนั้นเรือจะค่อยๆแล่นออกจากท่ามุ่งหน้าสู่ คอมออมโบ เมืองเล็กๆที่อยู่ระหว่างเมืองอัสวานและเอ็ดฟู ที่ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำไนล์ บ้านเรือนส่วนใหญ่สูงเพียง 1 หรือ 2 ชั้น ระหว่างทางผ่านแหล่งเพาะปลูกที่สำคัญริม
นำท่านชม วิหารคอมออมโบ (KOM OMBO TEMPLE) เป็นวิหารที่สร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพเจ้า ตั้งอยู่บนเนินเขาเล็กๆ ที่ล้ำออกมาถึงแม่น้ำไนล์ สามารถเห็นวิวของแม่น้ำไนล์อันงดงาม คำว่า “คอม” เป็นภาษาอาหรับ หมายถึงภูเขาเล็กๆ วิหารนี้เกือบเป็นวิหารอะโครโพลิสของกรีก หินที่ใช้สร้างแตกต่างกับวิหารอื่นๆ อาจเป็นเพราะถูกปกคลุมด้วยทรายเป็นเวลานานการวางแบบของพื้นที่แปลกและเป็นเฉพาะตัว เป็นวิหารของเทพเจ้าสององค์ คือ เทพโซเบค (SOBEK) เทพเจ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ มีรูปร่างเป็นมนุษย์แต่เศียรเป็นจระเข้ และ เทพเจ้าฮาโรเอริส (HAROERIS) เทพเจ้าแห่งการแพทย์อียิปต์โบราณ วิหารนี้สร้างบนเนินเขาริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เป็นบริเวณที่มีจระเข้ชุกชุมในสมัยโบราณ วัดนี้จึงบูชาเทพโซเบก ซึ่งมีหัวเป็นจระเข้ และมีจระเข้มัมมี่เก็บรักษาไว้ ชมภาพแกะสลักพระนางคลีโอพัตรา ซึ่งเป็นรูปแบบของเครื่องแต่งกายในการทำภาพยนตร์ และภาพแกะสลักที่สำคัญ คือ ภาพแกะสลัก การแพทย์แผนโบราณ โดยเฉพาะภาพการคลอดลูกของหญิงอียิปต์โบราณ และปฏิทินโบราณ มีร้านค้ามากมายตั้งอยู่ตลอดแนวท่าเรือ ขายเสื้อผ้าและสินค้าพื้นเมือง ล่องเรือไปยังเมืองอัสวาน
ค่ำ บริการอาหารเย็น ภายในห้องอาหารบนเรือ
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NILE CRUISE PRINCESS SARAH (พักบนเรือ) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารบนเรือ
เรือจอดเทียบท่า เมืองเอ็ดฟู จากนั้นนำท่าน นั่งรถเทียมม้าไปชม วิหารเอ็ดฟู ซึ่งได้รับการยกย่องว่า เป็นวิหารอียิปต์โบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ที่สุด ตั้งอยู่ศูนย์กลางของบริเวณที่อยู่อาศัย สร้างขึ้นเพื่อบูชา เทพเจ้าฮอรัส (Horus) มีเศียรเป็นเหนี่ยว เป็นเทพเจ้าแห่งความดีและฉลาดรอบรู้ มองได้ไกลเหมือนตาเหยี่ยว อดีตวิหารถูกปกคลุมด้วยทรายเกือบถึงยอดตัวเสาและหัวเสาเป็นเวลานาน ปี ค.ศ. 1860 มีการขนทราย ปรากฏว่าตัววิหารยังแข็งแรง แน่นหนา ขนาดของวิหารยาว 137 เมตร มีเสาใหญ่แบบไพรอนที่วัดได้ 79 เมตรตรงด้านหน้าและสูง 36 ม. วิหารนี้มีขนาดใหญ่และสวยงาม (กรุณาทิปคนขับรถม้าท่านละ US$ 1)
จากนั้นเรือเดินทางต่อไปยังเมืองลักซอร์ พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ
เที่ยงบริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารบนเรือสำราญ
ชมเมืองลักซอร์ เมืองที่มีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของอียิปต์อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ติดแม่น้ำไนล์ทางตอนกลางของประเทศ อยู่ห่างจากกรุงไคโรราว 650 กิโลเมตรชมบรรยากาศโดยรอบ วิถีชีวิตผู้คน และเช้าชมวิหารลักซอร์ LUXOR TEMPLE มาจากภาษาอารบิก ที่แปลเป็นไทยว่า “ป้อมปราการ” วิหารลักซอร์สร้างโดย ฟาโรห์อาเมนโอเทปที่ 3 คาดกันว่าวิหารแห่งนี้เป็นพระราชวังมากกว่าศาสนสถาน เนื่องจากมีรูปสลักการทำศึกสงครามประดับอยู่ภายใน ได้รับการบูรณะจากองค์ฟาโรห์หลายพระองค์ โดยเฉพาะจากฟาโรห์รามเสสที่ 2
ค่ำ บริการอาหารเย็น ภายในห้องอาหารบนเรือ
นำท่านเข้าสู่ที่พัก NILE CRUISE PRINCESS SARAH (พักบนเรือ) พักผ่อนตามอัธยาศัยบนเรือสำราญ
เช้า บริการอาหาร ณ ห้องอาหารของเรือ
นำท่านออกเดินทางโดยรถบัสปรับอากาศ เดินทางข้ามไปฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไนล์ เวสต์แบงก์ (WEST BANK) หรือ นครธีบส์ในสมัยอียิปต์โบราณ อดีตเชื่อว่าเป็นที่อยู่ของคนตาย หรือ นครของผู้วายชนม์ (Necropolis of Thebes) เต็มไปด้วยกลุ่มโบราณสถานที่มีประวัติน่าพิศวง ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ชม หุบผากษัตริย์ VALLEY OF THE KINGS เป็นที่ฝังพระศพของฟาโรห์ 63 พระองค์ ตั้งอยู่ที่เทือกเขาทีบัน ท่านสามารถเลือกเข้าชมได้เพียง 3 สุสาน ด้านหน้าทางเข้าสุสานฟาโรห์บนยอดเขานั้นดูคล้ายปลายแหลมยอด
ปิรามิด เป็นการเลือกหวงซุ้ยในการฝั่งศพ ให้คล้ายว่าฝังอยู่ใต้ปิรามิด สุสานเหล่านี้เป็นสุสานที่ถูกเลือกให้เป็นสุสานที่เก็บ มัมมี่และสมบัติของกษัตริย์ถึง 63 สุสาน แต่ละสุสานมีขนาดใหญ่เล็กต่างกัน ขึ้นอยู่กับระยะเวลาครองราชย์ สุสานเริ่มสร้างเมื่อฟาโรห์ครองราชย์ และปิดเมื่อฟาโรห์สิ้นพระชนม์ ภายในหลุมมีจิตรกรรมที่งดงามสีสดใสราวกับเพิ่งวาดเสร็จไม่นานนี้
(สุสานของฟาโรห์ตุตันคาเมน (KV62) ไม่รวมอยู่ในค่าบริการ กรุณาสอบถามเพิ่มเติมจากหัวหน้าทัวร์หรือมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ค่าบัตรเข้าชมโดยประมาณ ท่านละ 300-400 อียิปต์ปอนด์)
นำท่านชมวิหารฟาโรห์ฮัตเชปซุต (TEMPLE OF QUEEN HATSHEPSUT) เป็นวัดที่ตั้งอยู่ใกล้หุบเขาแห่งกษัตริย์และปัจจุบันถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่ยิ่งใหญ่ของอียิปต์โบราณ วิหารแห่งนี้ออกแบบโดยสถาปนิก “เซเนมุท” และสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ฟาโรห์หญิงฮัตเชพซุต ที่รู้จักในนาม “ราชินีหนวด” ที่มีอายุยืนที่สุดของลักซอร์อียิปต์ ฟาโรห์หญิงองค์เดียวในประวัติศาสตร์อียิปต์ ที่รุ่งเรืองมากในสมัยของพระองค์ เป็นสตรีที่ทรงอำนาจที่สุดในโลกยุคนั้น และทรงความสามารถด้านการปกครองยิ่งกว่าฟาโรห์บุรุษ ส่วนมากทรงเชี่ยวชาญด้านการปกครองและแสดงความเป็นผู้นำจนข้าราชสำนักต่างประจักษ์ในความสามารถ นับเป็นบุคคลที่น่าสนใจที่สุด ฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุต สตรีเหล็กอียิปต์
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตาคารท้องถิ่น
นำท่านชมมหาวิหารคาร์นัค GREAT TEMPLE OF KARNAK เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตัววิหารหลังเดียวมีเนื้อที่ถึง 60 เอเคอร์ ซึ่งใหญ่พอที่จะนำโบสถ์ขนาดใหญ่ของยุโรปไปวางได้ถึง 10 หลัง มหาวิหารแห่งนี้เริ่มก่อสร้างในสมัยฟาโรห์ทุตโมซิสที่ 1 เพื่อถวายแด่เทพอมอน-รา เมื่อกว่า 3,600 ปี มาแล้ว หลังจากนั้น ฟาโรห์องค์ต่างๆ ก็เริ่มสร้างเพิ่มเติม ทำให้วิหารมีขนาดใหญ่ขึ้นอย่างมาก แต่เห็นความยิ่งใหญ่ของวิหารแล้ว ขอให้ทุกท่านลองจินตนาการดูว่าชาวอียิปต์โบราณใช้วิธีใดในการขนย้ายเสา และหิน พร้อมทั้งการแกะสลักลวดลาย ซึ่งเมื่อท่านเห็นความสูงแล้วก็จะยิ่งทำให้นึกไม่ออกก็เป็นได้ ว่าเขาใช้วิธีทำอย่างไร ส่วนสำคัญที่สุดของที่นี่ก็คือ วิหาร AMON ซึ่งภายในจะมี Great Hypostyle Hall ห้องโถงที่มีเสาหินขนาดใหญ่ถึง 134 ต้น กินพื้นที่ถึง 6,000 ตารางเมตร ที่น่าอัศจรรย์ใจมากๆ ก็คือ เสาแต่ละต้นมีความสูงและกว้างใหญ่มาก โดยจะสลักอักษรภาพที่แสดงถึงวิถีชีวิต และกิจกรรมของฟาโรห์ที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องศาสนาและสงคราม เสาบางต้นตรงหัวเสามีรูปดอกปาปิรัสประดับเอาไว้
สมควรแก่เวลา นำทุกท่านเดินทางไปยังสนามบินลุกซอร์เพื่อบินไปยังสยามบินไคโร
(จำกัดน้ำหนักกระเป๋า 1 ใบ ไม่เกิน 23 กิโลกรัม)
*** เที่ยวบินภายในประเทศ บริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม ***
.................. น. ออกเดินทาง โดยสายการบิน อียิปต์ แอร์ เที่ยวบินที่ MS067
.................. น. เดินทางถึงสนามบินกรุงไคโร
เย็น บริการอาหารเย็น ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเข้าสู่ที่พัก HELNAN DREAMLAND HOTEL หรือเทียบเท่าระดับ 5 ดาว
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองอเล็กซานเดรีย (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง)
นำท่านชม ป้อมปราการซิทาเดล (CITADEL) ซึ่งในอดีตนั้นเป็นที่ตั้งของ ประภาคารฟาโรส ถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคโบราณ ปัจจุบันเหลือเพียงส่วนที่เป็นฐานและได้มีรับการทะนุบำรุงต่อเติมจากสุลต่านเกย์ตเบย์ โดยรวบรวมซากเดิมบางส่วนเข้ามา พักผ่อนหย่อนใจกับการชมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่สวยงาม
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคารท้องถิ่น
นำท่านเที่ยวชม เมืองอเล็กซานเดรีย ซึ่งเป็นเมืองสำคัญในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เดิมทีเป็นหมู่บ้านประมงเล็กๆ ที่ชื่อว่า ราคอนดาห์ เมื่อ 1,200 ปีก่อนคริสตกาล จนเมื่อ 332 ปี ก่อนคริสตกาลหรือ
ประมาณ 2,300 กว่าปีก่อนพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชมาพบ จึงให้มีการปรับปรุงขยายเมืองเพื่อเป็นเมืองหลวงและตั้งชื่อให้คล้องจองกับชื่อของพระองค์ เมืองอเล็กซานเดรียนี้ยังเป็นสถานที่สำคัญในตำนานรักอันยิ่งใหญ่ของ ราชินีเลอโฉมชื่อก้องโลก พระนางคลีโอพัตรา และนายทหารโรมัน มาร์ค แอนโทนี และปัจจุบันเมืองนี้ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ เป็นเมืองพักผ่อนตากอากาศที่ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของโลก ชม หลุมฝังศพใต้ดินแห่งอเล็กซานเดรีย 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์แห่งโลกยุคกลาง สุสานของขาวโรมันในอดีตมีกว่า 50,000 ศพ สุสานใต้ดินแห่งนี้มีสามชั้น ชั้นที่ 1 มีไว้สำหรับลำเลียงโลงและศพ ชั้นที่ 2 เป็นที่ฝังศพ และชั้นที่ 3 ใช้เป็นที่รวมญาติเพื่อระลึกถึงผู้ตาย โดยมีการเลี้ยงสังสรรค์กันทั้งวัน ซึ่งเล่ากันว่าตอนที่นักโบราณคดีค้นพบที่นี่เป็นครั้งแรก บนโต๊ะยังมีขวดไวน์และจานวางอยู่ ชม เสาปอมเปย์ เป็นสิ่งสำคัญโบราณในสมัยโรมันปกครองอียิปต์ เป็นเสาแกรนิตสูง 27 เมตร ปอมเปย์ เป็นชื่อเพื่อนสนิทของ จูเลียส ซีซ่า ผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งโรมัน ซึ่งภายหลังทั้งสองได้กลายเป็นศัตรูกันและปอมเปย์ได้หลบหนีมายังเมืองอเล็กซานเดรียในอียิปต์ และได้ถูกชาวอิยิปต์ฆ่าเสียชีวิต ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่เสาโบราณแบบกรีก ตั้งอยู่อย่างโด่ดเด่น และสฟิงซ์อีกสองตัว ได้เวลาสมควรเดินทางกลับสู่เมืองหลวงกรุงไคโร
จากนั้นนำท่านเดินทางกลับสู่สนามบินไคโร
(อาหารเย็นอิสระตามอัธยาศัยภายในสนามบิน)
02.50 น. ออกเดินทางโดยสายการบินเอมิเรตส์ ( EMIRATES ) เที่ยวบินที่ “EK926
07.10 น. ถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ เพื่อแวะเปลี่ยนเครื่อง
09.40 น. ออกเดินทางโดยสายการบิน EMIRATES AIRLINES เที่ยวบิน ที่ EK 372
19.15 น. เดินทางถึง สนามบินสุวรรณภูมิ
วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
23 พ.ย. 67 - 01 ธ.ค. 67 | 94,988 บาท | 19,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
05 ธ.ค. 67 - 13 ธ.ค. 67 | 95,988 บาท | 19,900 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
24 ธ.ค. 67 - 01 ม.ค. 68 | 99,988 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
28 ม.ค. 68 - 05 ก.พ. 68 | 88,988 บาท | 19,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 ก.พ. 68 - 19 ก.พ. 68 | 88,988 บาท | 19,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
21 มี.ค. 68 - 29 มี.ค. 68 | 88,988 บาท | 19,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
05 เม.ย. 68 - 13 เม.ย. 68 | 89,988 บาท | 19,500 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
10 เม.ย. 68 - 18 เม.ย. 68 | 99,988 บาท | 25,500 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
11 เม.ย. 68 - 19 เม.ย. 68 | 99,988 บาท | 25,500 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 เม.ย. 68 - 20 เม.ย. 68 | 99,988 บาท | 25,500 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
02 พ.ค. 68 - 10 พ.ค. 68 | 88,988 บาท | 87,988 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
เงื่อนไขการจองทัวร์
เงื่อนไขการยกเลิกทัวร์